Healthy Space Next Door
คู่มือแนะนำการสร้างพื้นที่สุขภาวะในชุมชน
“การออกกำลังกายช่วยให้เรามีสุขภาพดี แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ”
เป็นประโยคที่เด็กและผู้ใหญ่ทุกคนต่างก็รู้ดี แต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน เพราะต้องใช้ความพยายามอย่างมากเสียจนล้มเลิกความตั้งใจเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความพยายามในการเดินทางไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ไกลจากบ้าน จะออกกำลังกายเองภายในบ้านก็มีพื้นที่อยู่จำกัด และหลายครั้งการออกกำลังกายคนเดียวก็อาจไม่สนุกเท่ากับการได้ทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเพื่อน เนื่องจากสวนสาธารณะและสถานที่สำหรับกิจกรรมนันทนาการขนาดใหญ่ระดับเมืองจะมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่ถูกมองข้ามอย่างพื้นที่สาธารณะในระดับชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้ตัว ทุกคนเข้าถึงได้สะดวก อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยเพิ่มกิจกรรมทางกาย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี และนำไปสู่การสร้างเครือข่ายชุมชนสุขภาวะต่อไป

การทำความเข้าใจพื้นที่ในบริบทที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบพื้นที่สุขภาวะให้มีประสิทธิภาพ
มากไปกว่านั้น การออกแบบพื้นที่ให้กับคนในชุมชนจำเป็นต้องได้รับการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานจริง เพื่อให้พื้นที่สุขภาวะสามารถใช้งานได้ตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่นั้นด้วย โดยในที่นี้จะแบ่งเป็น 4 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เมือง พื้นที่ชานเมือง พื้นที่ชุมชนแออัด และพื้นที่ชนบท
พื้นที่สาธารณะในเมือง
ย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยอาคารและสิ่งปลูกสร้าง มีพื้นที่เปิดโล่งหรือสวนสาธารณะอยู่อย่างจำกัด ในขณะเดียวกันในเขตเมืองมีโครงสร้างพื้นฐานยกระดับจำนวนมากที่เป็นโครงข่ายเชื่อมต่อไปทั่วทั้งเมือง เช่น ทางด่วน รถไฟฟ้า หรือสะพานข้ามแหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งพื้นที่ว่างใต้โครงสร้างเหล่านั้นมีศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาเป็นพื้นที่สุขภาวะใกล้แหล่งชุมชนภายในเมืองได้
พื้นที่สาธารณะในชานเมือง
ย่านชานเมือง มีความหนาแน่นปานกลาง-น้อย มักมีพื้นที่ว่างรอการพัฒนา โดยเฉพาะพื้นที่ของหน่วยงานส่วนท้องถิ่นหรือพื้นที่รอบสาธารณูปการ เช่น สถานพยาบาล สถานดูแลเด็กเล็ก ห้องสมุดชุมชน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีกิจกรรมเดิมในพื้นที่และมีศักยภาพ ในการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่องให้เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อส่งเสริมสุขภาพในชุมชนได้
พื้นที่สาธารณะในชุมชนแออัด
ชุมชนที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านขนาดของพื้นที่ ส่งผลให้แนวทางการพัฒนาจำเป็นต้องนึกถึงความยืดหยุ่นในการใช้งานเป็นลำดับแรก ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่ส่วนกลางหรือพื้นที่สาธารณะในชุมชน จะมีลักษณะเป็นที่ว่างระหว่างเส้นทางสัญจรและที่ว่างระหว่างที่พักอาศัย ซึ่งต้องรองรับกิจกรรมสาธารณะทุกประเภทของชุมชนได้
พื้นที่สาธารณะในชนบท
การตั้งถิ่นฐานของผู้คนในชนบท มีลักษณะการกระจายตัวของบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน มีศูนย์กลางชุมชน เช่น โรงเรียน วัด หรือศาสนสถานอื่น ๆ ซึ่งมีบทบาทเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นบริเวณที่มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่องให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพในชุมชนได้
พื้นที่สุขภาวะไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ออกกำลังกายสาธารณะเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่เป็นแนวคิดในการออกแบบพื้นที่ชุมชนเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับร่างกายมากขึ้นตามพื้นที่ที่เราทุกคนอยู่ได้อย่างเป็นรูปธรรม การมีพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นจะกลายเป็นชุมชนแห่งใหม่ให้ผู้คนได้มาพบปะพูดคุย มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนที่เราไม่รู้จัก เป็นพื้นที่ทางเลือกให้เราได้ใช้เวลาร่วมกัน ช่วยให้เราได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
จะดีแค่ไหนถ้าสุขภาพที่ดีและความห่างไกลจากโรคอยู่ใกล้แค่เอื้อม เราทุกคนสามารถช่วยทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มพัฒนาพื้นที่สาธารณะใกล้บ้านด้วยตัวคุณเอง สามารถดาวน์โหลด “คู่มือแนะนำการสร้างพื้นที่สุขภาวะในชุมชน” ได้จาก link ข้างล่าง
สนับสนุนโดย
องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก (WHO Regional Office for South-East Asia)
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)